Conditional Statement

การใช้คำสั่งเพื่อการตัดสินใจหรือกำหนดทางเลือกในการทำงาน โดยดูจากผลลัพธ์ในการทำงานของเงื่อนไขที่กำหนดไว้ คำสั่งพื้นฐานสำหรับการตัดสินใจในภาษา Swift ประกอบด้วย If, If...else และ switch

การใช้คำสั่ง If

คำสั่ง if เป็นการกำหนดให้โปรแกรมทำงานตามคำสั่งที่อยู่ใน Scope ของ {...} เมื่อตรวจสอบเงื่อนไขแล้ว พบว่า ผลลัพธ์ของการทำงานมีค่าเป็น "จริง (true)"

ผังงานของคำสั่ง If

ตัวอย่างในการใช้คำสั่ง If

การใช้คำสั่ง If...else

คำสั่ง if...else เป็นการกำหนดให้โปรแกรมทำงานตามคำสั่งที่อยู่ใน Scope ก่อน else เมื่อตรวจสอบเงื่อนไขแล้ว พบว่า ผลลัพธ์ของการทำงานมีค่าเป็น "จริง (true)" และจะทำตาม Scope ซึ่งอยู่หลัง else เมื่อตรวจสอบเงือนไขแล้ว พบว่า ผลลัพธ์ของการทำงานมีค่าเป็น "เท็จ (false)"

ผังงานของคำสั่ง If...else

ตัวอย่างในการใช้คำสั่ง If...else

ในกรณีที่ต้องการให้มีทางเลือกในการทำงานมากกว่า 2 ทางเลือก เราจะสามารถใช้คำสั่ง else if เพื่อกำหนดเงื่อนไขที่ต้องตรวจสอบเป็นลำดับชั้น โดยโปรแกรมจะประมวลผลคำสั่งซึ่งอยู่ภายใน scope ของเงื่อนไขที่เป็น จริง (true) เพียงทางเลือกเดียวเท่านั้น แต่หากตรวจพบว่าไม่มีเงื่อนไขใดเลยที่เป็นจริง โปรแกรมจะทำคำสั่งสุดท้าย

ผังงานของคำสั่ง else If

ตัวอย่างในการใช้คำสั่ง else if

การใช้คำสั่ง switch

คำสั่ง switch ใช้สำหรับการเลือกทำแบบหลายทางเลือกซึ่งพิจารณาจากการตรวจสอบค่าในตัวแปร โดยแบ่งทางเลือกต่าง ๆ ออกเป็น case ซึ่งแต่ละ case จะต้องมีค่าไม่ซ้ำกัน และหากผลการตรวจสอบค่าของตัวแปรนั้นไม่ตรงกับ case ใดเลย จะทำคำสั่งใน default

ผังงานของคำสั่ง switch

ตัวอย่างในการใช้ switch

ตัวอย่างการกำหนดทางเลือกที่ต้องการตรวจสอบเป็นช่วงของข้อมูล

คำสั่ง fallthrough

คำสั่ง fallthrough เป็น Control Transfer Statements ที่ถูกนำมาใช้กับ Switch เพื่อสั่งให้โปรแกรมยังคงทำงานต่อเนื่องใน case ถัดๆ ไป โดยไม่ต้องหยุดหรือกระโดดออกจาก scope ของ switch ตัวอย่างเช่น

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

รายละเอียดเพื่อการอ้างอิง ผู้เขียน ธิติ ธีระเธียร วันที่เผยแพร่ วันที่ 6 พฤษภาคม 2562. เข้าถึงได้จาก https://ajthiti.gitbook.io/swift/conditional-statement เงื่อนใขในการใช้งาน This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

Last updated